ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

Toscana เขาใหญ่ เหมือนได้ไปอิตาลี ว้าว!!

 



ประเด็นมันเกิดจาก อยากไปเที่ยวเมืองนอกเหมือนทุกที แต่เงินหด ออกนอกประเทศไม่ได้ อยากหาเรื่องไปเที่ยวกับแก๊ง กับแม่ ก็เลย เอาเหอะ ไปเที่ยวที่นี่ก็ได้ เห็นคนถ่ายรูปมาแล้ว สวยดี 


พอไปถึง แล้วได้สัมผัสอย่างใกล้ชิดสนิทชิดเชื้อ เหยยยย มันสุดยอด เพื่อนๆ ไม่ได้โม้ เพราะตัวเราเคยไปอิตาลีมาแล้ว กลิ่นอายของที่นี่จะเป็นแนวทัสคานี ดินแดนทางตอนใต้ของอิตาลี เราไปเที่ยวฟลอเรนซ์มา แล้วเราได้กลิ่นอารมณ์แบบนั้นที่นี่ อย่างแรงมากด้วย เราชื่นชมคนที่สรรค์สร้างที่นี่มากๆ ว่า

เออ คนไทย เราไม่ต้องไปเสียตังให้ประเทศอื่นเพื่อที่อยากจะไปเห็นของจริง เพราะเขาสามารถสร้างสิ่งที่เว่อวังแบบนั้นออกมาให้เราได้ฟิลนั้นเช่นกันในเมืองไทย สร้างงาน สร้างเงินให้เกิดขึ้นในเมืองไทยได้

ตัวเรา พอไปเที่ยวมาเสร็จ เราตกลงกับแม่เลยว่า จะต้องหาซื้อที่ดิน สร้างบ้านที่แถบนี้ให้ได้ เพราะอากาศเขาดี สิ่งแวดล้อมดี เราเป็นโรคภูมิแพ้ แต่ไปแล้ว ตลอดสองวัน เราไม่จามเลยอ่ะ  ตัวเราเป็นคนชอบป่าเขาอยู่แล้ว อยากหาที่ดินผืนเล็ก ชื่นชมธรรมชาติในบ้านสไตล์ฝรั่งที่เราชอบ ฝันๆๆๆ

Toscana valley แบ่งเป็นหลายส่วน หลายฟังก์ชั่นมาก มีทั้งคอนโดปล่อยขาย เช่าพัก บ้านใหญ่มหึมาเป็นหลังๆให้คนมาจับจอง 

พวกเราขับรถเข้าไปลึกมากกกกก จนแบบ เฮ้ยยย เราต้องไปถึงไหนอ่ะ สุดท้าย ที่พักเราที่เป็นตึกเหมือนบ้านแบบสไตล์อิตาลี พื้นหินๆ ตัวตึกเหลืองเข้มสลับกับส้ม กอดกันเป็นกลุ่มก้อนด้านที่เกือบติดภูเขา ด้านในสุด คือ ที่พักของเรา ที่เรียกว่า hotel la casetta 


พระเจ้า มันสวยมาก มันเหมือนเป็น community เป็นหมู่บ้านเล็กๆที่แจกเป็นเลนซ้ายขวา น่ารักมากๆ

แค่เข้าไปถึง reception ก็สวยแล้ว แถมมีนำ้มะตูมไว้ต้อนรับเราด้วย วันที่เราไปถึงต้องนั่งรอ เพราะคนมาเยอะมาก น่าแปลก เพราะเราอุตส่าห์เลือกไปกันวันจันทร์ คงเป็นการหนีตายวันหยุดยาวมาเที่ยวของนักท่องเที่ยวเช่นเรา ลืมบอกว่า ช่วงที่เรามาเที่ยวคือต้นเดือนกันยายนค่ะ

เรามากันหกคน ต้องจองสองห้อง แป้งนอนกับแม่ที่ห้องแบบสองคน สไตล์ pano จะแพงหน่อยสำหรับราคาห้องสองคน เพราะได้วิวสูง ต้องขึ้นลิฟท์ไปชั้น 4

ของอีกสี่คน เป็นสไตล์ลอฟท์ มีเตียงนอนอยู่ข้างบนลอฟท์ด้วย ให้นอนสองคนล่าง และอีกสองนอนด้านบน ไม่งงใช่ไหม ฮ่าฮ่า เขาเดินขึ้นบันไดกันไปชั้น 2 มีแอบเหนื่อยเล็กน้อย ถ้าเกิดต้องขนกระเป๋ากันหนัก

ห้องก็สวยมาก วัวตายควายล้มค่ะ เพื่อนๆ


อันนี้คือ ชั้นลอยของห้องสี่คน

                                                นี่คือ ห้องแป้งกับแม่ค่ะ มีที่นั่งเล่น น่านั่งมากกกก

ทุกห้องมีระเบียงเปิดออกไป ให้ทักทายกัน ห้องของพวกเรา เขาจัดให้อยู่คนละตึก แต่ตรงข้ามกันพอดี รถสองคันมาจอดหน้าตึกได้สะดวก


หลังจากเดินชมห้องทั้งสองห้องจนหนำใจ เกลือกกลิ้งกันตามโซฟา เตียงสักพัก ก็ตกลงว่าไปเดินเล่นที่สระว่ายน้ำ ขนชุดว่ายน้ำไปถ่ายรูปเล่นกันดีกว่า โดยมีคนเสนอว่าไปจตุรัส หรือ piazza ของเขาก่อน ซึ่งตรงจุดนั้นจะใกล้กับ club house ที่มีสระว่ายน้ำ infinity edge ที่ใครๆเขาชอบไปถ่ายรูปกัน

แต่แม่เจ้า แค่ตรงจตุรัสเขาเนี่ย เราก็ต้องใช้เวลาร่วมหลายชั่วโมงในการเดินเก็บรายละเอียด ถ่ายรูป โพสท่ากันจนตากล้องเริ่มหอบเหนื่อย เหงื่อตกกันทั้งนางแบบตากล้อง เพราะอากาศก็ร้อนเหมือนกัน ไม่ได้เย็นสดชื่นลมพริ้วไรผมอะไรแบบนั้น







เสร็จแล้วเราถึงได้ move กันไปที่ Club house กัน คนที่ร้างๆตรงจตุรัส มารวมตัวกันที่ริมสระใหญ่กันหมด จนตอนแรกเรามองหน้ากันแล้วสงสัยว่าจะได้รูปสวยๆที่ไม่ติดหัวใครบ้างไหม แต่สุดท้าย พอคนอื่น เขาถ่ายกันหนำใจแล้ว ก็เป็นสิทธิ์ของเราในการเข้ายึดพื้นที่ ตะวันก็เริ่มคล้อยแล้ว ชาวบ้านชาวช่องเขาก็คงเตรียมไปหาข้าวกิน แต่เราก็ยังอยู่กันจนเกือบมืด


อาหารค่ำของเรา เริ่มมีการล็อบบี้กันเกิดขึ้นว่า กินกันที่ในตัว toscana valley นี่แหละ อยากใช้เวลาที่นี่ให้คุ้ม ไม่ต้องไปสรรหาอะไรที่ไหนไกล และที่สำคัญ ตอนกลางคืน จะคลำทางกลับกันลำบาก ขนาดขามายังแทบงม

เราเช็ดตัวกันพอหมาดๆ ก็กลับมาที่ตรง town square ใกล้จตุรัส เหลือบเห็นถนนด้านข้าง เรียงรายไปด้วยร้านอาหารเป็นเส้นยาว ประดับประดาไปด้วยไฟสไตล์คริสต์มาสสวยงามมาก แป้งพุ่งตัวไปอย่างไว และบอกว่า เราควรทานกันที่นี่ สรุปเลือกได้ร้าน caffe del museo ร้านอาหารอิตาเลียน ที่พนักงานผู้หญิงแนะนำอาหารและต่อบทสนทนาเราได้อรรถรสดี ขนาดก้อย หนึ่งในแก๊ง ที่ป่วย เพราะนอนน้อย ยังเอ็นจอยบรรยากาศ และทานอาหารได้เยอะกว่าที่คิด


 เรานั่งเมาท์มอยกันอยู่นาน ก็กลับมานั่งปาร์ตี้ที่ห้องแก๊ง 4 คนอย่างสนุกสนาน ก่อนแยกย้ายกันไปนอน แป้งซัดไวน์ไปแก้วนึงก็เริ่มมึนๆ คลำทางกลับเข้าห้องตัวเอง รีบหมกตัวในผ้าห่ม ข่มตาหลับ พยายามไม่เบนสายตาไปทางตู้เสื้อผ้าที่ดูยังไงก็เหมือนอุปกรณ์ประกอบฉากในหนังเรื่อง The conjuring

ตื่นเช้ามาอย่างงัวเงียเล็กน้อย เพราะนอนไม่ค่อยสนิท ทุกอย่างในห้องดีงามหมด ยกเว้นเสียงแอร์ท่อที่ดังครางกระหึ่มมาก แม่ก็บ่นปัญหานี้เช่นกัน และคิดว่า จะเอาไปบ่นให้พนักงานฟังตอน check out

แป้งหาแม่ออกไปถ่ายรูปรอบๆบริเวณที่พักของเรา เพื่อฆ่าเวลาที่นัดกันไว้กับเพื่อนคนอื่นว่าจะไปทานข้าวเช้ากันตอน 8โมงครึ่ง 

ข้อดีของที่นี่คือ มีสระว่ายน้ำเยอะมาก ไม่ว่า ใครจะพักที่ไหน บริเวณใด จะมีสระว่ายน้ำให้ลงไปแช่ไปว่ายได้หมด และสระที่เราชอบกันสุดๆเลยคือ สระว่ายน้ำสไตล์โรมัน ที่แป้งถ่ายรูปกับแม่อย่างเมามันส์ และรีบไปบอกต่อคนอื่นๆ จนสุดท้ายพวกเราทุกคนก็ลงมติว่าจะมาลงเล่นน้ำ และถ่ายรูปกันอีกที่นี่



พวกเราเสียเวลาถ่ายรูปกันที่นี่จนเกือบลืมเวลาว่าจะต้องไปเช็คเอาท์แล้วตอนเที่ยง 

น่าเสียดายที่เพื่อนคนหนึ่ง เมื่อเช็คเอาท์เสร็จ บอกว่า จริงๆเราสามารถขอเขาต่อไปจนถึงบ่ายสองได้ เพราะวันนี้คนไม่เยอะ โธ่ถัง

และแม่ก็ลืมที่จะคอมเมนท์เขาเรื่องแอร์อีกด้วย ว้าาา

เราไปทวง welcome drinks ที่สามารถมารับได้ก่อนกลับที่ห้องทานข้าวตอนเช้าที่เรียกว่า club lago

ถ่ายรูปต่ออีกนิดหน่อย เพราะที่จุดทานข้าวก็ถ่ายรูปได้สวยอีก โอ๊ยยยย มันถ่ายได้ทุกจุดจริงๆนะ ไม่ได้โกหก

ลองไปกันนะคะ และจะหาว่าคุยเกินราคา





เพื่อนๆสามารถเข้าไปชม vlog ของเราที่ถ่ายทำการไปเที่ยวกับแก๊งที่ toscana valley นี้ได้นะคะ ที่นี่ค่ะ


https://youtu.be/ENIgzvJz8ss





 












ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

อุทยานหินผาสุดยอดอลังการ Monument Valley !!!

                                                           ทุกจังหวะของการก้าวย่างเข้าสู่พื้นที่แห่งความอ้างว้าง ว่างเปล่า แผ่นฟ้ากว้างไกลไร้ขอบเขต แผ่นดินทอดยาวสุดลูกหูลูกตา จิตใจของฉันพลันอิ่มเอมและหัวสมองก็เต็มไปด้วยคำว่า "ผจญภัย"                                                                                                         -   ถุงแป้ง -     Monument valley เป็นเป้าหมายหลักของฉันในทริปนี้ก็ว่าได้ ในขณะที่ Antelope เป็นที่หลักของหญิง ส่วนฝ้าย นางไปที่ไหนก็ได้ นางโอเคกับทุกจุด มีคนตรงกลางบ้างก็ดีนะ ทริปนี้ ฝาก Vlog ด้วยนะคะ       ...

บินไปส่องหนุ่มไกลถึงงานแห่กลอง otaiko matsuri

ชิโกกุ เป็นภูมิภาคที่เข้าถึงยากไปนิด เพราะความที่ไม่มีชินกันเซนเข้าถึง อาจเพราะความที่เป็นเกาะเล็ก เล็กที่สุดของญี่ปุ่นนั่นแหละ จะไปไหนมาไหนระหว่างจังหวัด ก็ขับรถไปสามสี่ชั่วโมง หรือนั่งรถไฟปกติ ก็ไม่หนักหนา พวกเรา เลือกที่จะเดินทางไปลงมัตสึยาม่า สนามบินหนึ่งเดียวที่เชื่อมเกาะชิโกกุกับแผ่นดินใหญ่อย่างคันไซ ถ้าริจะ มาทางเครื่องบินแล้วละก็ งานเทศกาลแห่กลองประกวดประขันกัน ที่ยิ่งใหญ่และถือว่า เป็นการต่อสู้หรือ fight festival ที่ขึงขังและจริงจังสุด น่าจะเป็นที่นิฮามะ niihama เมืองเล็กๆของจังหวัดเอะฮิเมะนี่ละ กลองและเครื่องแต่ง พู่ห้อยรอบรถที่มีล้อ หนักร่วม 3 ตันกว่า ต้องใช้ชายฉกรรจ์ถึง 150 คนเป็นลูกหาบ แม้จะมีล้อ เทียมเกวียนอยู่ด้านล่าง แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องโชว์ความสามารถและความพร้อมเพรียงของลูกหาบทั้งหลาย ก็จะต้อง ยกแท่นขึ้น โดยหามท่อนไม้ยาวที่มีขนาดใหญ่และหนักมากขึ้นมาบนไหล่ เรียกว่า เป็นกิจกรรมที่ทรมานทรกรรม สาระร่างมาก แต่ถือว่า เป็นการสรรหาวิธีมาประชันความอึดกันในแต่ละชุมชนแบบสร้างสรรค์และเสริมสร้าง วัฒนธรรม ว่าแล้ว ก็อยากให้บ้านเรามีกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์แบบนี้บ้างจัง เร...