ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ทริปฮ่องกงหลังปีใหม่ พาแม่เมื่อย

           

       





ก่อนอื่นขอออกตัวว่า ไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญเรื่องการเที่ยวฮ่องกงเลยนะคะ ไปครั้งที่แล้วกับเพื่อนก็เดินตามเขาต้อยๆ ไม่มีการจดจำใดๆทั้งสิ้น ครั้งนี้ พาแม่เที่ยวก็ค่อนข้างเครียด เพราะระลึกชาติไปก็ไม่ได้ช่วย เกาลูนกับฮ่องกงเป็นอย่างไร ก็ Blank สุดๆ
ใช้เวลาเรียบเรียงอยู่นานถึงหนึ่งอาทิตย์ ถึงได้ความว่า ควรซื้อ pass ตั๋วรถไฟเข้าเมืองรวมตั๋วรถไฟใต้ดิน MTR 3 วันไปเลยกับเว็บเพจ Klook ที่เคยใช้ซื้อตั๋วเข้ายูนิเวอร์แซลที่โอซาก้า สะดวกดี ประกอบกับเราจะไปเที่ยวฮ่องกง 3วัน 2 คืนพอดิบพอดีเสียด้วย คนละ 1,400 หรือเปล่า จำไม่ได้แล้ว ขอโทษด้วยค่ะ แล้วมันก็เป็นโปรโมชั่นที่ป๊อบอัพขึ้นมาถาม ก็เลยคลิกตัดสินใจซื้อไป สะดวกดีนะ ง่าย ไม่ต้องไปเติมเงินวุ่นวาย และเราก็ใช้คุ้มสุดๆ เพราะไปเปลี่ยนรถไฟไปนู่นนี่ หลายที่อยู่ เวลามาถึงสนามบิน ก็เดินออกมาตรงชั้นขาเข้านั่นแหละค่ะ มาแลกรับบัตร Pass ได้ที่เคาน์เตอร์ A13 วันกลับ ก็มาคืนบัตร เพื่อรับแลกเงินคืน 50เหรียญฮ่องกงด้วยนะ ที่เคาน์เตอร์ตรงสถานีรถไฟ airport express

     
ขอเตือนนิด ว่าพาแม่เมื่อยอย่างที่เกริ่นไว้ นั่นคือ เมื่อยจริงๆนะ เราเดินๆกันทั้งวัน ฮ่องกงเป็นพื้นที่ๆมีเนินมีขั้นบันไดเยอะ โดยเฉพาะที่เกาะฮ่องกง โอ้โห ขั้นบันไดและเนินชันๆก็เยอะ แต่มีมุมให้ถ่ายรูปดี มีกลิ่นอายความเป็นนิวยอร์ก ก็เลยต้องทนไต่ไปเรื่อยๆ
เกาลูน ให้อารมณ์ของความเป็นฮ่องกงจริงๆมากกว่า หลายจุด เดินๆอยู่ก็นึกถึงหนังฮ่องกง ซีรีย์ฮ่องกงสมัยก่อนที่ครอบครัวอยู่กันในห้องตึกแถวประตูลูกกรง บ้านเดี่ยวๆแบบจัดสรรไม่มีให้เห็น ถูกใจเราดีแท้ เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบการอยู่อาศัยในรูปแบบคอนโด เปิดประตูมา เจอเพื่อนร่วมตึกเยอะๆ อยู่วุ่นดี (ประหลาดคนเนาะ)
ขอรีวิวที่เที่ยวที่ไปโดนมาเป็นที่ๆไปละกันนะคะ ตามสไตล์ของเรา ว่าที่ไหนดีงามบ้าง
วันนี้กว่าจะมาถึงที่เที่ยวที่วางแผนได้ ก็น่วม เพราะเอาของไปไว้โรงแรมซึ่งอยู่บนเกาะเกาลูนนี้แหละ แต่อยู๋ไกลมากบนสายเขียวอ่อน สถานี Ngau Tau Kok คนทำทางออกก็ใจดำแท้ ไม่ทำบันไดเลื่อนให้เลย อีทางออกที่เราต้องออก ลิฟท์ก็ไม่มี มีแต่บันไดขึ้นและลงหลายซับหลายซ้อน ออกมาก็เดินหาโรงแรมกันอีก เพราะอยู่หลังตึกหนึ่งที่เราต้องเดินอ้อมมาด้านหลังถึงจะเจอ แต่พอมาถึงโรงแรม ก็ไม่ผิดหวัง ดีงาม พระรามแปดมาก เพราะเป็นโรงแรมสี่ดาวที่มาแอบหลบอยู่นอกเมือง ราคาสองคืน แปดพันกว่าบาท ถ้าไปตั้งอยู๋ที่ใกล้รถไฟในเมืองคงล่อไปเป็นหมื่นๆ
       

โรงแรมชื่อ hotel L’Elan มันดีมากเลย ห้องที่เราได้เป็นห้อง twin กว้างขวาง อยู่บนชั้น 26 โดยรีเซปชั่นของที่นี่จะอยู่บนชั้นบนสุด ซึ่งแปลกมาก เหินไปเช็คอินแล้วค่อยกดลิฟท์ลงมาที่ห้องด้านล่าง ใครที่ไม่ได้แบกกระเป๋าหนักมากมาย และไม่ได้มากับคนสูงอายุ ก็แนะนำนะคะ ใกล้ๆมีร้านแฟรนไชส์ขายอาหารจีนฟิวชั่น อร่อยชื่อ Tsui Wah มีอาหารเซ็ตมื้อเช้า ราคา 40 เหรียญฮ่องกง ไม่แพงเลย แบ่งกันสองคนได้ด้วย มีเมนูให้จิ้มๆเป็นภาษาปะกิต

วัดหวังต้าเซียน หรือหวังต่ายซิ้น



คือเราไปช่วงปีใหม่ใช่ไหม ก็เลยต้องไปไหว้พระขอพรกันนิดนึง แล้วที่นี่ก็ได้ชื่อว่า ฮิตมากของคนไทยและทัวร์ทั้งหลาย ทัวร์ญี่ปุ่นก็มานะ
วัดนี้โด่งดังเรื่องขอพรด้านความรักที่เขามาผูกด้ายแดงกันด้วยท่าภาษามือแปลกๆนั่นแหละ แต่เราสนใจเรื่องความสำเร็จและความร่ำรวยมากกว่า จึงขอเริ่มตั้งแต่ทางเข้า ก็มีมังกรหรือปี่เซี้ยะ (ไม่แน่ใจ) สองตัวอยู่บนแท่นหินตรงหน้าประตู สูตรเขามีว่าต้องลูบที่อุ้งเท้าและจมูก (ซึ่งอยู่สูงมาก ต้องกระโดดกันเลยทีเดียว) แล้วเอามือมาตบกระเป๋าตัง แล้วจะรวยเฮงเด้งระเบิด จริงหรือเปล่า ไม่ทราบได้ แต่ก็ทำไปก่อนแล้ว
เดินตามทางที่มีป้ายบอกว่าเป็นทางเข้า ปีนบันไดมา มีรูปปั้นนักษัตรทั้งสิบสองอยู่ทางซ้ายมือให้เราได้มาขอพรตามนักษัตรของแต่ละคน ใครอยากขออะไร ก็ลูปไปตามองค์นักษัตรประจำตัว ไม่รู้ว่าต้องลูบตรงไหน ก็ไม่ต้องไปกลัว เพราะร่องรอยของการลูบของคนอื่นๆ เขาทิ้งไว้เพียบ ตรงไหนมันเลื่อมๆ สีเพี้ยนๆ ก็ลูบไปตามนั้น
ตอนแรกว่าจะไม่ไหว้พระจุดธูป เพระาไม่อยากงุนงงกับการจุดธูป แต่เห็นหลายคนเขาก็มาไหว้พระจุดธูปกัน ก็เลยเดินกลับออกไปซื้อ แล้วกลับมาไหว้ตามๆเขาไป เทพไหนมีป้ายภาษาอังกฤษบอกว่า ให้พรด้านไหน ก็ไหว้แล้วปักธูปไป เป็นอันจบ เราเดินเล่นแล้วนั่งพักกันสักพัก ก็ไปเดินเล่นหาของกินกันในเมืองดีกว่า
ตัววัดถือว่าสวยงามดี แลดูจี๊นจีน ล้อมรอบไปด้วยคอนโดและตึก ได้วิวแปลกพิลึกดีค่ะ คนเยอะแต่ก็ไม่ได้รู้สึกแออัด
ลืมบอกว่า ก่อนที่จะเดินมาที่วัด เราไปแวะทานก๋วยเตี๋ยวสไตล์ฮ่องกงกันที่เพิงข้างวัด ถัดจากที่จอดรถบัส รถเมล์ที่มาส่งคนลงวัด มีเพิงร้านขายของกินข้างถนนอยู่สองสามร้าน ฉันเลือกร้านหนึ่งที่มีคนนั่งอยู่หลายโต๊ะ แล้วก็ไปบุ้ยใบ้สั่งก๋วยเตี๋ยวเต้าหู้กับลูกชิ้นมาสองชาม รสชาตินั้นแสนจะธรรมดา แต่ตอนนั้นหิวมาก สามารถล้มหมูกินได้หลายตัว ก็เลยกินกันตายไป ขอบอกว่า สองชาม แพงมาก ไม่รู้อีตาคนขายฟาดหัวนักท่องเที่ยวอย่างเรารึเปล่า เสียหายกันไป 200กว่าบาทกับอาหารข้างถนน อะไรเนี่ย
คำเตือนข้อที่สองคือ อาหารการกินและน้ำดื่มของฮ่องกง แพงมาก อย่างกับไปเที่ยวอยู่ญี่ปุ่น ซึ่งคุณภาพบางอย่างไม่สมราคาเอามากๆ
การเดินทาง สถานี Wang tai sin ทางออก A

วัดแชกงหมิวหรือวัดกังหัน

อันนี้ ขอบอกว่า เจอแต่คนไทยเลย คือมาวัดนี้ คิดว่า ตัวเองอยู่เมืองไทย มีแต่ทัวร์คนไทยมาไหว้กันจริงๆจังๆ บางคนเหมือนมาแก้บนจากครั้งก่อนด้วย วัดนี้ คนค่อนข้างโล่ง ต่างจากวัดแรกลิบลับ
และก็ด้วยความโง่ เดินเข้าผิดทางตั้งแต่มาถึง เดินไปเข้าตรงทางออก ทางเข้าวัดจะอยู่ตรงด้านสวนที่มีม้านั่ง ขอเตือน โอ๊ย กะว่าเตรียมงานมาดีแล้วเชียว ที่วัดนี้ มีเจ๊พูดภาษาไทยยืนขายธูปอยู่หน้าปากทาง บอกบทให้เราเขียนชื่อ เขียนแซ่ บนกระดาษม้วนธูปเพื่อเขาจะเอาไปเผาทีหลัง มีใบบอกบทการไหว้เป็นภาษาไทยที่ค้อนข้างซับซ้อน ปักธูปตรงไหนอย่างไร ตัวฉันเองศึกษามาบ้างแล้วจากยูทูป แต่ก็ยังงงๆ เนื่องด้วย เราไม่ใช่คนจีนด้วย ก็เลยค่อน blank อีกแล้ว ฮ่าฮ่า
วัดนี้ เป็นวัดที่ให้เรามาขอพรจากท่านแชกง ซึ่งเคยเป็นแม่ทัพกรำศึกมาเจ็ดย่านน้ำ ศักดิ์สิทธิ์มาก ไม่ได้เป็นเทพเหมือนที่หวังต้าเซียน แต่เราก็รู้สึกถึงความขลังของท่านนะ เอาจริงๆ แม่ฉันกลับมา ถูกหวยสองงวดติดนะ ไม่ได้พูดเล่น
แม่บอกว่า สงสัย ต้องกลับไปไหว้ขอบคุณท่านอีกรอบ นี่ หาเรื่องให้ฉันพาเที่ยวอีกแหงม
มีเคล็ดลับเล็กน้อย ว่า ข้างๆองค์ท่าน มีห้องแยกเล็กๆ ให้เข้าไปทำพิธีขอพร และเสียตังอีก ถังเงินทองตรงจุดนี้ ถ้าเราเตรียมเงินไทยมา เอามาลูบตัวถังนี้ แล้วขอพรพูด เฮงๆรวยๆ นำเงินมาพับเก็บใส่กระเป๋าตัง ก็เป็นอันเสร็จพิธีทั้งหมดทั้งปวงที่จดจำมา เล่นเอาเหนื่อย
การเดินทาง สถานี Tai Wai ทางออก Che Kong temple เดิน 10 นาที

Ngong ping 360 หงองปิง

มาไหว้พระใหญ่กัน ที่เกาะหล่านเถา
ที่นี่เราค่อนข้างประทับใจเลย ตั้งแต่วิธีการเดินทางไปถึงที่ต้องซื้อตั๋วนั่งกระเช้าคริสตัลขึ้นไป ราคาแพงหูฉี่ คนละ 800 บาทได้มั้ง เราเลยซื้อกันแค่เที่ยวเดียว เพราะขากลับอยากสัมผัสการลงแบบเหาะเหินบนรถบัสบ้าง (ข้อแก้ตัว ดูดี จริงๆแล้ว อยากประหยัดตังมากกว่า) แต่ก็ถือว่า นั่งคุ้มเลย เพราะได้ชมวิวบนกระเช้า (ร่วมกับคนอื่นอีก 7-8 คน) ราวครึ่งชั่วโมงได้
           
         
           
                 
               
 ช่างเป็นระยะทางนั่งกระเช้าที่ยาวนาน แต่ก็มีวิวเขียวๆของต้นไม้เบื้องล่างกับทางเดินขึ้นเขาที่น่าอัศจรรย์ให้ก้มลงมองตลอด
หมู่บ้านหงองปิงมีสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ให้คนมาถ่ายรูปเล่นด้วยเป็นที่ระทึกเหมือนที่นาราของญี่ปุ่นด้วยนะ เพียงแต่ไม่ใช่กวางที่นอนทอดหุ่ยสบายใจอยู่ใต้ต้นไม้ แต่กลับเป็นพี่วัวตัวสีน้ำตาลใหญ่ล่ำบึ้ดแทน
         
               

เราใช้เวลาอยู่ที่นี่ค่อนข้างนาน เพราะกว่าจะมาถึงได้ ก็นั่งกระเช้ามาตั้งนาน ร้านรวงที่นี่ให้ความรู้สึกแบบจีนแผ่นดินใหญ่ นักท่องเที่ยวฝรั่งมังค่าและคนจีนเดินกันเต็มไปหมด รวมถึงคนไทยด้วย ส่งเสียงเจื้อยแจ้วกันตลอดเวลา ให้หายคิดถึงบ้าน ฉันกับแม่พากันมาต่อคิวไหว้พระขอพรที่จุดเฉพาะด้านล่างที่เขาเสียงลือเสียงเล่าอ้างกันมาว่า ถ้าขอพรตรงจุดนี้ จะได้ยินไถึงองค์พระชัดเจนมาก อาจเป็นกิมมิกที่ล่อตาล่อใจคนขี้เมื่อยและคนชราที่ปีนขึ้นไปเซลฟี่กับท่านถึงด้านบนไม่ไหว ฮ่าฮ่า


                             
              The Peak

  

รถบัสสาย 15 ใครๆก็รู้ว่า เป็นสายที่ใช้นั่งขึ้นมาเดอะพีค จุดชมวิวเมืองที่สวยที่สุดจุดหนึ่งของโลก เสียดายที่วันนี้พาแม่มาเห็นฮ่องกงในม่านหมอกและสายฝน แถมตอนหาจุดขึ้นรถบัสใต้ตึก IFC ก็ทรมานทรกรรม เดินหาเป็นชั่วโมง เล่นเอาต้องถามทางแม่บ้านฟิลิปปินส์ที่แห่กันมาชุมนุมเป็นพันๆคนในวันอาทิตย์ มีทแอนด์กรี๊ดตามวันและเวลาเดิมของพวกนางใต้ตึกที่กระจายทั่วเกาะฮ่องกงตลอดทาง ถือว่า เป็นเครื่องบอกทางชั้นดี เพระาพูดภาษาอังกฤษได้ 
ลุงคนขับรถบัสที่ขึ้นมาเดอะพีคนั้น คงต้องฝึกหนักหลายปีกว่าจะได้รับใบอนุญาตให้ขึ้นมาขับที่นี่ เพราะเล่นปล่อยโค้งหวาดเสียว เลี้ยวคดไปคดมาแบบสบายอารมณ์ แต่คนนั่งนั้นดมยาดมไปหลายครั้งหลายครา ด้านนอกฝนก็ตก เลยทำให้มองไม่เห็นวิวด้านนอก ทำให้เมารถกันสุดๆไปเลย  

แต่ก็ถือว่า รูปที่ถ่ายออกมาก็ไม่เลวร้าย แสงสีฮ่องกงสู้ม่านหมอกไม่ยั้งมือเหมือนกัน





ใครใคร่ชม Vlog ฮ่องกง ของแป้ง เชิญเข้าไปคลิกได้เลยค่ะ
ชมภาพเคลื่อนไหว อาจจะเห็นภาพกว่านะคะ
 3วัน 2คืนในฮ่องกงค่ะ
ขอบคุณค่ะ




                 ส่วนทริปล่าสุด ก็มีเดินทางยาวอีกครั้งนะฮ้า ไปนิวหยวกมาค่า พาแม่เมื่อยอีกแล้ว
เจาะหลายที่ๆต้องไปโดน ลองตามไปดูใน
Vlog set ล่าสุดอันนี้ได้นะคะ ที่ด้านล่างนี้เลยค่ะ ขอบคุณค่า


       

       


 
                 
         Follow me @ Bkkglampgirl Studio
On Youtube Channel!! Thnx ka








ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

เก๊ารัก เกาหลี :สถานที่ฮิปๆ ในโซลที่ต้องไปโดนช่วงปลายใบไม้ร่วง

                            จากคลิปยูทูปนี้นะค้า คลิกที่นี่ค่ะ เก๊ารักเกาหลี ของ Bkkglampgal โซลเดือนพฤศจิกาปีนี้ หนาวจับใจ แถมหิมะก็ชิงตกลงมาก่อนหน้าที่เราจะมาถึงเพียงสองวัน เราแอบหวังกันเล็กๆว่า เราน่าจะได้สัมผัสบรรยากาศยามหิมะโปรยปรายกันในปลายฤดูใบไม้ร่วงนี้กันซะละมั้ง (แต่เมื่อเกิดความคาดหวัง ความผิดหวังก็ย่อมมีเป็นของคู่กัน) เครื่องบินของเราแตะพื้นตอนเวลาเช้าตรู่ เราและคนอื่นๆเดินลงจากเครื่องด้วยสีหน้าง่วงงุน โดยเฉพาะฉันที่หน้าจะดูแย่เป็นพิเศษกว่าใครเพื่อน เพราะได้งีบไปเพียงสามชั่วโมงแบบหลับๆตื่นๆ ฉันนัดเจอกับเพื่อนอีกสองคนที่เดินทางมาจากอีกไฟลท์หนึ่งที่มาถึงก่อนหน้าจากกรุงเทพตรงห้องน้ำแถวสายพานกระเป๋า เราล้างหน้าล้างตากันเรียบร้อย ก็ออกมาเดินวนหาทางไปต่อรถไฟเข้าเมือง สภาพเหมือนคนตาบอดคลำหาไม้เท้า ดีที่เจอพี่คนไทยที่กำลังรีบจะไปขึ้นเครื่องกลับ บอกทางให้ว่าต้องลงบันไดเลื่อนไปชั้นล่าง บริการขนส่งเข้าเมืองของสนามบินมีตัวเลือกเพิ่มมาให้เราอีกหนึ่งออพชั่นคือ รถไฟ ระบบการขนส่งใหม่เอี่ยม จากที่เมื่อก่อน ออพชั่น...
 My California RV trip 2017                    คลิปโปรโมตสั้นๆนี้นะคะ Vlog เที่ยวซานฟรานซิสโก Day 1 ⬇ https://www.youtube.com/watch?v=D314sPPOhJs Vlog เที่ยวซานฟรานซิสโก Day 2 กินแหลก ไปทุกที่ๆsearch มาว่าดีงาม                   Vlog เที่ยวซานฟรานซิสโก Day 3 ไป Blue Coffee, Boba guys และก้ไปรับรถบ้านค่า การผจญภัยเราเริ่มขึ้นแล้ว!!!                     Vlog Day 1: กินนอนบนรถบ้านมาแล้นค่าา Yosemite อุทยานที่สุดแห่งขุนเขา                    Vlog Day 2:  กินนอนในรถบ้าน Motorhome trip เราไป อุทยานต้นไม้ยักษ์ Sequoia  ตามหาเอ็ดเวิร์ดในป่าแวมไพร์                     Vlog Day 3: กินนอนรถบ้าน Motorhome trip วันนี้ออกจากแคมป์ที่พักกันสองวัน ไปแหล่งอ...

เรื่องเล่าเสียวๆ บนถนนสุดเปลี่ยวในอเมริกา/ โลเกชั่นหนัง Texas Chainsaw Massacre

                         ฉันเป็นโรคประหลาด ความรกร้าง ความโดดเดี่ยว ความรู้สึกว่า เราอยู่ตัวคนเดียวในที่ๆหนึ่ง มักปลุกสัญชาตญาณความเป็นนักสู้ ในตัวฉันเสมอ นั่นคือ เหตุผลที่ฉันชอบ หนังเรื่อง I am Legend ของวิล สมิธมาก     ว่าแต่มันเกี่ยวกันมั้ย!??                                   -ถุงแป้ง- ก่อนอื่น ขอโปรโมททริปรถบ้านที่หลังจากทริปนี้ แป้งมาลองดีขับรถบ้านกับสาวๆ ตะลุยอเมริกาตะวันตกกันค่ะ สนุกม้าาากกก มาชมกันนะคะ https://youtu.be/qgnpgAlqgMc    ไฮเวย์สาย12และ 24 คือ ความประทับใจของฉันอีกเรื่องหนึ่งที่ฉันมีต่อทริปขับรถทางแถบ southwest ของอเมริกาในปี 2559 นั้น ที่แม้ฉันจะกลับมาแล้วหนึ่งปีก็ตาม แต่ความทรงจำตอนขับรถบนเส้นทางสายนั้นในช่วงฤดูหนาวยังคงทำให้ฉันอมยิ้มเสมอ เมื่อนึกถึง (ดูออกโรคจิตนิดๆ)    ทางหลวงสาย 12 เป็นทางหลวงที่ถูกขนานนามว่า เป็นเส้นทางอเมริกันแบบดั้งเดิมขนานแท้ ในเขต Garfield และ Way...

คลอง(โอตารุ Otaru) แสนแซ่บ ไม่ไปไม่ได้

                                        ความหม่นมัวของฤดูหนาว ไม่สามารถทำร้ายมนต์เสน่ห์ของคลองนี้ได้ ยิ่งกลับขับเน้นความเก่าขลังของตึกอิฐสีตุ่นๆให้โดดเด่นมากขึ้นและมากขึ้น                                -ถุงแป้ง-       เราคืนรถที่เช่ามาไปเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวาน แม้จะทุลักทุเลที่ต้องขับไปคืนที่สนามบินชินชิโตเสะ แล้วต่อรถเมล์กลับมาซับโปโร่หน่อยก็ตาม (ปกติ ก็ไม่เคยทำอย่างนี้ คืนรถที่สนามบิน ก็บินกลับเลย ใครใช้ให้ทำแบบนี้!!! โกรธตัวเอง)        อากาศเช้านี้ ค่อนข้างมัว มีหิมะปรอยๆแต่เช้า พยากรณ์อากาศทำให้ใจเราห่อเหี่ยวขึ้นไปอีกว่า จะมีหิมะตกทั้งวันประปราย สงสัยภาพเราที่โอตารุจะไม่งามละ งานนี้                    ข้างนอกหน้าต่างเป็นไอความร้อนจากฮีตเตอร์ในตัวรถกระทบกับความเย็นข้างนอก ซึ่งตอนนี้ หิมะกำลังตกลงมาอีก   ...