ชิโกกุ เป็นภูมิภาคที่เข้าถึงยากไปนิด เพราะความที่ไม่มีชินกันเซนเข้าถึง อาจเพราะความที่เป็นเกาะเล็ก
เล็กที่สุดของญี่ปุ่นนั่นแหละ จะไปไหนมาไหนระหว่างจังหวัด ก็ขับรถไปสามสี่ชั่วโมง หรือนั่งรถไฟปกติ ก็ไม่หนักหนา
พวกเรา เลือกที่จะเดินทางไปลงมัตสึยาม่า สนามบินหนึ่งเดียวที่เชื่อมเกาะชิโกกุกับแผ่นดินใหญ่อย่างคันไซ ถ้าริจะ
มาทางเครื่องบินแล้วละก็
งานเทศกาลแห่กลองประกวดประขันกัน ที่ยิ่งใหญ่และถือว่า เป็นการต่อสู้หรือ fight festival ที่ขึงขังและจริงจังสุด
น่าจะเป็นที่นิฮามะ niihama เมืองเล็กๆของจังหวัดเอะฮิเมะนี่ละ
กลองและเครื่องแต่ง พู่ห้อยรอบรถที่มีล้อ หนักร่วม 3 ตันกว่า ต้องใช้ชายฉกรรจ์ถึง 150 คนเป็นลูกหาบ แม้จะมีล้อ
เทียมเกวียนอยู่ด้านล่าง แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องโชว์ความสามารถและความพร้อมเพรียงของลูกหาบทั้งหลาย ก็จะต้อง
ยกแท่นขึ้น โดยหามท่อนไม้ยาวที่มีขนาดใหญ่และหนักมากขึ้นมาบนไหล่ เรียกว่า เป็นกิจกรรมที่ทรมานทรกรรม
สาระร่างมาก แต่ถือว่า เป็นการสรรหาวิธีมาประชันความอึดกันในแต่ละชุมชนแบบสร้างสรรค์และเสริมสร้าง
วัฒนธรรม ว่าแล้ว ก็อยากให้บ้านเรามีกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์แบบนี้บ้างจัง
เรามาถึงแผ่นดินญี่ปุ่นทางคันไซ โอซาก้า เอาวันที่ 17 ตุลาคม งานเทศกาลที่มีจัดถึงสี่วันนั้น จะจบอยูมะรอมมะร่อ
โดยวันที่ 18 ถือเป็นวันสุดท้ายกันแล้ว ทางเลือกหนึ่งเดียวของเรา คือการนั่งเครื่องบินภายในประเทศ
อย่างสายการบิน peach ไปลงที่มัตสึยาม่าจากคันไซนั่นเอง ราคาเพียงพันเจ็ดร้อยบาท ภายในห้าสิบนาที เหมือน
เสียเงินนั่งไปเชียงใหม่ จากกรุงเทพ เสียอย่างเดียว เที่ยวบินที่เราเดินทาง ดันดีเลย์ไปเกือบชั่วโมง เพราะการจัดการ
ด้านภาคพื้นของสายการบินทำไปได้อย่างล่าช้า ไม่ฉับไวเด็ดขาด ผู้โดยสารที่ขึ้นมาบนเครื่องแล้ว มีปัญหาเรื่องตั๋ว
แต่จัดการกันไม่ได้สักที นี่ละมั้ง ที่เคยได้ยินมาว่า คนญี่ปุ่น จะจัดการกับปัญหาเฉพาะหน้าได้ยากเย็น อะไรที่หลุด
นอกกรอบ หรือกฎเกณฑ์ ก็จะเอ๋อกันไปเลย
นั่งอุดอู้อยู่ในเครื่องบินลำเล็กอยู่ร่วมชั่วโมง เล่นเอาร่างโทรมๆของพวกเราที่โทรมอยู่แล้วกับการนั่งโขยกมาจาก
กรุงเทพเมื่อคืน แล้วโดนรถไฟโขยกอีกรอบเพื่อเข้าเมืองไปเดินเล่นฆ่าเวลาที่โดตงโบริก่อนที่จะกลับมาสนามบินอีก
ทีเพื่อต่อเครื่อง เหี่ยวแห้งแล้งกันเป็นอีกเท่าตัว คืนนี้ สงสัยต้องเรียกว่า ล้มหมอนนอนเสื่อแทนที่จะเรียกว่า
การนอนธรรมดาๆ
สนใจดูเรื่องราวทั้งหมด คลิกได้ที่ vlog นี้ของผู้เขียนที่แชนแนลยูทูป Bkkglampgirl Studio ด้านล่างนี้เลยค่ะ
เล็กที่สุดของญี่ปุ่นนั่นแหละ จะไปไหนมาไหนระหว่างจังหวัด ก็ขับรถไปสามสี่ชั่วโมง หรือนั่งรถไฟปกติ ก็ไม่หนักหนา
พวกเรา เลือกที่จะเดินทางไปลงมัตสึยาม่า สนามบินหนึ่งเดียวที่เชื่อมเกาะชิโกกุกับแผ่นดินใหญ่อย่างคันไซ ถ้าริจะ
มาทางเครื่องบินแล้วละก็
งานเทศกาลแห่กลองประกวดประขันกัน ที่ยิ่งใหญ่และถือว่า เป็นการต่อสู้หรือ fight festival ที่ขึงขังและจริงจังสุด
น่าจะเป็นที่นิฮามะ niihama เมืองเล็กๆของจังหวัดเอะฮิเมะนี่ละ
กลองและเครื่องแต่ง พู่ห้อยรอบรถที่มีล้อ หนักร่วม 3 ตันกว่า ต้องใช้ชายฉกรรจ์ถึง 150 คนเป็นลูกหาบ แม้จะมีล้อ
เทียมเกวียนอยู่ด้านล่าง แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องโชว์ความสามารถและความพร้อมเพรียงของลูกหาบทั้งหลาย ก็จะต้อง
ยกแท่นขึ้น โดยหามท่อนไม้ยาวที่มีขนาดใหญ่และหนักมากขึ้นมาบนไหล่ เรียกว่า เป็นกิจกรรมที่ทรมานทรกรรม
สาระร่างมาก แต่ถือว่า เป็นการสรรหาวิธีมาประชันความอึดกันในแต่ละชุมชนแบบสร้างสรรค์และเสริมสร้าง
วัฒนธรรม ว่าแล้ว ก็อยากให้บ้านเรามีกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์แบบนี้บ้างจัง
เรามาถึงแผ่นดินญี่ปุ่นทางคันไซ โอซาก้า เอาวันที่ 17 ตุลาคม งานเทศกาลที่มีจัดถึงสี่วันนั้น จะจบอยูมะรอมมะร่อ
โดยวันที่ 18 ถือเป็นวันสุดท้ายกันแล้ว ทางเลือกหนึ่งเดียวของเรา คือการนั่งเครื่องบินภายในประเทศ
อย่างสายการบิน peach ไปลงที่มัตสึยาม่าจากคันไซนั่นเอง ราคาเพียงพันเจ็ดร้อยบาท ภายในห้าสิบนาที เหมือน
เสียเงินนั่งไปเชียงใหม่ จากกรุงเทพ เสียอย่างเดียว เที่ยวบินที่เราเดินทาง ดันดีเลย์ไปเกือบชั่วโมง เพราะการจัดการ
ด้านภาคพื้นของสายการบินทำไปได้อย่างล่าช้า ไม่ฉับไวเด็ดขาด ผู้โดยสารที่ขึ้นมาบนเครื่องแล้ว มีปัญหาเรื่องตั๋ว
แต่จัดการกันไม่ได้สักที นี่ละมั้ง ที่เคยได้ยินมาว่า คนญี่ปุ่น จะจัดการกับปัญหาเฉพาะหน้าได้ยากเย็น อะไรที่หลุด
นอกกรอบ หรือกฎเกณฑ์ ก็จะเอ๋อกันไปเลย
นั่งอุดอู้อยู่ในเครื่องบินลำเล็กอยู่ร่วมชั่วโมง เล่นเอาร่างโทรมๆของพวกเราที่โทรมอยู่แล้วกับการนั่งโขยกมาจาก
กรุงเทพเมื่อคืน แล้วโดนรถไฟโขยกอีกรอบเพื่อเข้าเมืองไปเดินเล่นฆ่าเวลาที่โดตงโบริก่อนที่จะกลับมาสนามบินอีก
ทีเพื่อต่อเครื่อง เหี่ยวแห้งแล้งกันเป็นอีกเท่าตัว คืนนี้ สงสัยต้องเรียกว่า ล้มหมอนนอนเสื่อแทนที่จะเรียกว่า
การนอนธรรมดาๆ
สนใจดูเรื่องราวทั้งหมด คลิกได้ที่ vlog นี้ของผู้เขียนที่แชนแนลยูทูป Bkkglampgirl Studio ด้านล่างนี้เลยค่ะ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น